ธนาคารกรุงเทพ จัดพิธีไหว้ครูดนตรี-นาฏศิลป์ไทย ประจำปี 2557 ร่วมสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 35

ข่าวประชาสัมพันธ์

9 มิถุนายน 2557

                               

      

           หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล กรรมการธนาคาร ในฐานะประธานพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ร่วมกิจกรรมพิธีไหว้ครูดนตรี-นาฏศิลป์ไทย ประจำปี 2557 โดยมีอาจารย์ไพฑูรย์ เข้มแข็ง ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ไทย วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ประกอบพิธีอ่านโองการไหว้ครู โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมพิธี อาทิ คุณขวัญจิต ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ คุณนันทวัน เมฆใหญ่ สุวรรณปิยะศิริ คุณนีรนุช
ปัทมสูต และคุณเจนภพ จบกระบวนวรรณ ณ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม ทั้งนี้พิธีไหว้ครูดนตรี-นาฏศิลป์ไทย นับเป็นกิจกรรมที่ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 35 ด้วยธนาคารตระหนักว่าศิลปะและวัฒนธรรมเป็นรากฐานที่สำคัญของสังคมและสะท้อนความเป็นชาติ และเพื่อให้
นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมในพิธีกรรมที่สำคัญครบถ้วนตามจารีตพิธีไหว้ครูแบบราชสำนัก อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อวงการการศึกษา และรักษาประเพณีโบราณให้ดำรงคงอยู่สืบต่อไป

ค้นหา : วันที่ 11 มิถุนายน 2557

ที่มา : http://www.bangkokbank.com/BangkokBankThai/AboutBangkokBank/AboutUs/MediaRoom/2014/June/Pages/PressRelease9Jun2014.aspx

ค้นหาโดย : นางสาวทวินันท์   กลับสี   014

แบงก์กรุงเทพฯชี้ไร้รบ.ใหม่ หวั่นจีดีพีปีนี้โตแค่ 1-2%

โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 6 พ.ค. 2557 21:35

           แบงก์กรุงเทพฯ ชี้หากจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในไตรมาส 3 จีดีพีไทยมีโอกาสโต 2-3% แต่หากการเมืองยังยืดเยื้อ ส่งผลให้ลงทุนชะลอตัว จะโตได้เพียง 1-2% เท่านั้น…

           เมื่อวันที่ 6 พ.ค. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้ มีโอกาสขยายตัวได้ 2-3% หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลถาวรเข้ามาบริหารประเทศได้ภายในไตรมาส 3 แต่หากปัญหาทางการเมืองยังคงยืดเยื้อออกไป จนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลถาวรได้ จีดีพีปีนี้มีโอกาสโตได้ 1-2% เท่านั้น เนื่องจากปัญหาทางการเมือง ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนมีการชะลอตัวลง ซึ่งจะทำให้ไทยเสียโอกาสในการเป็นศูนย์กลางในการลงทุนของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองในประเทศ

           ทั้งนี้ โดยภาพรวมของเศรษฐกิจแล้วยังถือว่าอยู่ในระดับที่ทรงตัวหรือขยายตัวได้เล็กน้อย ต่างจากวิกฤติช่วงน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งเศรษฐกิจมีการขยายตัวติดลบ และที่สำคัญกำลังซื้อในประเทศยังคงมีอยู่ เพียงแต่ชะลอตัวลงเท่านั้น เนื่องจากไม่มีความมั่นใจในการจับจ่าย เพราะยังไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะเป็นอย่างไร แต่หากปัญหาทางการเมืองชัดเจนขึ้นในไตรมาสนี้ และสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในไตรมาส 3 บรรยากาศการจับจ่ายและการลงทุนจะกลับมาดีขึ้น และเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2-3%.   

ค้นหาวันที่ 11 มิถุนายน 2557 

ที่มา:http://www.thairath.co.th/content/421093

ค้นหาโดย นางสาว จุฑารัตน์ ยมนานนท์